MENU

หุ้นไทยดิ่งหนัก 25.85 จุด นักลงทุนผวา! การเมือง - สงครามตะวันออกกลางบานปลาย

 19 มิ.ย. 2568 00:00

ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก 25.85 จุด ปิดที่ 1,068.73 จุด จากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังพรรคภูมิใจประกาศถอนตัวออกจากรัฐบาล ท่ามกลางข้อเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศความตรึงเครียดสงครามตะวันออกขยายวงกว้าง ซ้ำเติมสงครามการค้าที่ยังไม่ชัดเจน


บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ (19 มิ.ย. 68) ปรับตัวลดลงแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในภาคเช้า จากปัจจัยด้านเสถียรภาพทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล รวมถึงสถานการณ์ความตรึงเครียดสงครามตะวันออกกลาง ที่จะกระทบเป็นวงกว้าง ล้วนแต่จะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมถดถอย ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกดดันให้ดัชนีร่วงอย่างหนัก


โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,066.07 จุด สูงสุดที่ 1,085.71 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,068.73 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 25.85 จุด หรือคิดเป็น 2.36% มูลค่าการซื้อขายรวม 46,634.59 ล้านบาท


ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 693.28 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 6,393.63 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 281.78 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 6,805.14ล้านบาท


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.32% มูลค่าการซื้อขาย 3,379.63 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.66% มูลค่าการซื้อขาย 2,898.53 ล้านบาท และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ปิดที่ 269.00 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ 3.24% มูลค่าการซื้อขาย 2,806.36 ล้านบาท


ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่วเส็ง ปิดที่ 23,237.74 จุด ลดลง 472.95 จุด หรือ 1.99% ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 38,488.34 จุด ลดลง 396.81 จุด หรือ 1.02% ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,362.11 จุด ลดลง 26.70 จุด หรือ 0.79% ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีดัชนีคอมโพสิต (KOSPI) ปิดที่ 2,977.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.55 จุด หรือ 0.19%


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงแรงจากปัจจัยการเมืองที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะเสถียรภาพของรัฐบาล หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ประกอบกับ กังวลท่าทีของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงกว้างได้


ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยังคงมีความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังไม่สามารถหาทางเจรจายุติความขัดแย้งได้ เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุดยังไม่มีการส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยมากขึ้น หลังจากสงครามการค้าเริ่มมีผลกระทบทำให้เงินเฟ้อในสหรัฐสูงขึ้น และเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นต่างประเทศในวันนี้


แนวโน้มพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) ยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเย็นวันนี้รอติดตามท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ที่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยให้แนวต้าน 1,080 จุด แนวรับ 1,050 จุด