
เซ็นทรัลพัฒนา โชว์ผลงานไตรมาสแรก ปี 68 โกยกำไรทะลุ 4.2 พันล้านบาท
6 พ.ค. 2568 00:00
บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดผลงานไตรมาส 1 ปี 68 กวาดรายได้รวม 12,162 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,227 ล้านบาท ผู้บริหารเผยวิสัยทัศน์ ‘Pioneering Growth & Beyond’ เสริมศักยภาพย่านและเมืองต่างๆ พร้อมผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ระดับโลก
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ CFO and President, Hotel and Office บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสแรกปี 2568 ได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ อาทิ โครงการ Easy E-Receipt โดยคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป โดยมาตรการต่างๆ ผนวกกับกลยุทธ์ Retail-Led Mixed - use Development ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ผลักดันผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ให้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยไตรมาสแรกปี 68 บริษัทมีกำไรที่ 4,227 ล้านบาทและรายได้รวม 12,162 ล้านบาท โดยรายได้ที่แข็งแกร่งมาจากธุรกิจให้เช่าและบริการและธุรกิจโรงแรม ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะเครือเซ็นทาราและ Go Hotel เดินหน้าฟื้นตัวอย่างโดดเด่น สะท้อนความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้งอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ บริษัทได้เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดตัวโครงการ Market Place เทพรักษ์ เมื่อ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Urban Fresh Market” โมเดลคอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางย่านพหลโยธิน–วัชรพล บนพื้นที่กว่า 7,300 ตร.ม. รวมร้านค้ากว่า 360 ร้านค้า ครบครันทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คนในกรุงเทพฯ ตอนเหนือ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าดึง แบรนด์ชั้นนำระดับโลกและแบรนด์ไทยขยายสาขาในศูนย์การค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ Nitori แบรนด์เฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 จากญี่ปุ่น ขยายสาขานอกกรุงเทพฯ ครั้งแรกในไทย บุกตลาดภาคตะวันออกที่ เซ็นทรัล พัทยา และ เซ็นทรัล ศรีราชา, POP MART ที่ เซ็นทรัล เวสต์เกต และในรูปแบบ ป๊อปอัพสโตร์ ที่เซ็นทรัล พัทยา สะท้อนความเชื่อมั่นของแบรนด์ระดับโลกต่อศักยภาพศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนา
นางสาวนภารัตน์ กล่าวถึง วิสัยทัศน์ ‘Pioneering Growth & Beyond’ เดินหน้าลงทุนระยะยาว 120,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสและโครงการ Transformation ทุกภูมิภาค ภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2568–2572) ภายใต้กลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development เสริมศักยภาพย่านและเมืองต่างๆ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ระดับโลก โดยเตรียมเปิดตัวเมกะโปรเจกต์และโครงการใหม่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึง 3 โครงการใหม่ล่าสุด ได้แก่ ‘The Central’ พหลโยธิน เมกะโปรเจกต์แห่งอนาคตที่จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ (New CBD) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ, ‘Central Northville’ มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางนนทบุรี และ ‘Central Khonkaen Campus’ โครงการแห่งที่ 2 ในจังหวัดขอนแก่น
ขณะเดียวกันในปี 2568 ยังเตรียมเปิดตัวโครงการสำคัญอย่าง ‘Central Park’ ศูนย์การค้าระดับ Masterpiece บน Prestigious Address ดีที่สุด ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยคอนเซ็ปต์ Here for Bangkok, ‘Central Krabi’ ที่จะผลักดันศักยภาพเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และจะเป็นศูนย์การค้าต้นแบบด้าน Sustainable & Mindful Travel ควบคู่ไปกับเมือง รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยในมิกซ์ยูส บ้านนินญา กระบี่, คอนโดมิเนียม Phyll กระบี่ (เปิดพรีเซลล์เดือนกรกฎาคม) และบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี (เปิดพรีเซลล์เดือนพฤษภาคม)
สร้างปรากฏการณ์ Festive landmark ทั่วประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
ชูความสำเร็จจากงาน “Thailand’s Songkran Festival 2025” คึกคักทั่วทุกภูมิภาค สร้าง World Phenomenon ผู้ร่วมงานมากเกิน 10 ล้านคนทั่วไทย สร้างปรากฏการณ์อันดับ 1 ทุกแพลตฟอร์ม Engagement กว่า 30 ล้าน ผลักดันให้เทศกาลสงกรานต์ไทยเป็นเทศกาลระดับโลกอย่างแท้จริง พร้อมเบิกรับศักราชใหม่ด้วยการฉลองตรุษจีนที่ดีที่สุดในแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2025” เป็นแลนด์มาร์กจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยวที่ดีที่สุด กระตุ้นจับจ่าย สร้างเงินสะพัดทั่วประเทศ
ตอกย้ำสถานะ “องค์กรยั่งยืนระดับโลก” ติดอันดับ DJSI World ต่อเนื่องปีที่ 7 และ DJSI Emerging Markets ปีที่ 11 ในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 244 บริษัททั่วโลก
สะท้อนความมุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ครอบคลุมครบทุกมิติ People – Place – Planet ควบคู่กับการคว้ารางวัล Thailand’s Most Admired Company 2024–2025 จากนิตยสาร BrandAge เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในฐานะบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุดอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ด้วยจุดแข็ง 6 ด้านหลัก: นวัตกรรม, การดำเนินธุรกิจ, ภาพลักษณ์, การบริหารจัดการ, ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริการทั้งหมดนี้ สะท้อนศักยภาพขององค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยธรรมาภิบาล โปร่งใส และเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากล
ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 42 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 40 แห่ง - ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ; ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง; และศูนย์การค้าเมกา บางนา อีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้ มอลล์ 16 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 37 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 10 แห่ง โครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงรวม 44 โครงการ