MENU

Krungthai COMPASS คาดแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ - จับตาผลกระทบค่าเงิน

 6 พ.ค. 2568 00:00

Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย คาดกนง.อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมสู่ระดับ 1.50% จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบรุนแรงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ


Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ


โดยกนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกนั้น


ทั้งนี้ คาดกนง.อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมสู่ระดับ1.50% จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบรุนแรงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยมองว่าช่วงเวลาของการตัดสินนโยบายครั้งต่อไป กนง. จะพิจารณาจากพัฒนาการของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการของเศรษฐกิจไทย เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดจาก policy space ที่มีจำกัด


โดยการประชุมครั้งต่อไปช่วงปลายเดือน มิ.ย. หาก กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีกครั้ง จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง 3 การประชุม เช่นเดียวกับช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก 2008 (GFC) และโควิด - 19


นอกจากนี้ ในระยะข้างหน้าต้องติดตามช่วงเวลาและขนาดของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไทยมีทิศทางต่ำลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ (Fed) ยังไม่ความไม่แน่นอนจากผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าที่อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเงินบาทในช่วงนับตั้งแต่การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. 2567 มีทิศทางแข็งค่าสูงกว่าประเทศในภูมิภาค โดยเป็นรองเพียงญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์