
GULF ตั้งเป้าทุ่มงบลงทุน 5 ปี 1.0 - 1.2 แสนล้าน มั่นใจ EBITDA ปี 69 โต 15%
1 ธ.ค. 2568 00:00
บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ตั้งเป้างบลงทุน 5 ปีกว่า 1.0 - 1.2 แสนล้านบาท สัดส่วนกว่า 70% ทุ่มลงโครงการพลังงานหมุนเวียน ขณะที่ปี 69 คาด EBITDA เติบโต 15% จากโรงไฟฟ้าที่จะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ 683 MW และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาสหรัฐฯ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลจาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยถึง แผนการลงทุนในระยะ 5 ปี (ปี 2569 - 2573) ว่า บริษัทคาดจะมีการลงทุนประมาณ 1.0 - 1.2 แสนล้านบาท โดยเงินลงทุนประมาณ 70% ใช้ลงทุนให้โครงการพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ EBITDA เติบโต 10 - 15% ต่อปี โดยบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่จะทยอย COD จากวันนี้จนถึงปี 2576 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเข้าร่วมพัฒนาโครงการจากนโยบายภาครัฐ อาทิ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์, โครงการโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์
สำหรับในปี 2569 นั้น บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่อง โดย EBITDA จะขยายตัวจากปีนี้ประมาณ 15% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 683 เมกะวัตต์ (MW) รวมถึงโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสหรัฐ Jackson Generation จากค่า Capacity Payment ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น
โดยบริษัทตั้งงบลงทุนในปี 2569 ประมาณ 2.5 - 3.0 หมื่นล้านบาท โดย 30% จะใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน อีก 60% ลงทุนในธุรกิจ New S-curve อาทิ Data Center, Cloud และ AI รวมทั้งลงทุนอื่นๆ ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสด การออกหุ้นกู้ และเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นางสาวยุพาพิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 69 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ประมาณ 6 - 7 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ และลงทุนโครงการต่างๆ ตามแผนงาน เนื่องจากขณะนี้อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลง จะช่วยทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลงได้ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแบ่งการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 ครั้งต่อปี
"ในปี 2569 บริษัทมีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอีก 623 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโซลาร์ฟาร์ม 4 โครงการ รวม 321 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์มพร้อมแบตเตอรี่ 2 โครงการ รวม 302 เมกะวัตต์ คาด COD ช่วงเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2569 ซึ่งรับรู้กำไรเพิ่มประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี โครงการขยะชุมชน จ.เชียงใหม่ 10 เมกะวัตต์ มีกำหนด COD ในเดือน พ.ค. 2569 รับรู้กำไรเพิ่มประมาณ 120 ล้านบาท ต่อปี รวมทั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่จะทยอยเปิดดำเนินการ 50 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมดที่จะมีการ COD ในปี 69 จำนวนรวม 683 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 17,203 เมกะวัตต์"
ขณะที่โครงการมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา คาดจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2569 ส่วนโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ จะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้นจากค่า Capacity Payment เพิ่มต่อเนื่องตามความต้องการใช้ไฟฟ้าในธุรกิจ Data Center ที่เพิ่มขึ้น โดยปี 2569 บริษัทคาดจะรับรู้กำไรเพิ่มเข้ามา 1,200 ล้านบาท ส่วนธุรกิจ LNG วางแผนนำเข้า 70 ลำ หรือประมาณ 4 - 5 ล้านตัน ทำให้รับรู้กำไรเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2569 บริษัทได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลรับจาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ซึ่งมีทิศทางผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามการขยายฐานผู้ใช้บริการ 5G การเพิ่มขึ้นของ ARPU จากการเพิ่มบริการใหม่ๆ ส่วนกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ GSA02 ซึ่งมีขนาด 38 เมกะวัตต์ คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 1/2570




ยอมรับการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ การใช้งานที่ดีที่สุด